การกำกับดูแลกิจการ
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงการดําเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการกํากับดูแลกิจการที่ดี ด้วยเชื่อมั่นว่าระบบและการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ จึงได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัท โดยมีเนื้อหาครอบคลุมหลักการสำคัญในเรื่อง สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การคํานึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ทบทวนและปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ล่าสุดเมื่อ วันที่ 6 สิงหาคม 2567 เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของบริษัทฯ โดยอ้างอิงจากหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2555 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Code) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดเผยเนื้อหารายละเอียดไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ https://www.spvi.co.th/corporategovernancereport
ในปี 2567 บริษัทฯ มีการปฏิบัติตามหลักการกํากับดูแลกิจการที่ดี สรุปได้ดังนี้
หมวดที่ 1 สิทธิของผู้ถือหุ้น
บริษัทฯ ตระหนักและให้ความสำคัญในสิทธิพื้นฐานต่างๆ ของผู้ถือหุ้น ได้แก่ สิทธิการซื้อขายหรือโอนหุ้น สิทธิในการที่จะได้รับส่วนแบ่งกำไรของกิจการ สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจการอย่างเพียงพอ สิทธิในการเข้าร่วมประชุมเพื่อใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และเรื่องที่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ เช่น การจัดสรรเงินปันผล การกำหนดหรือการแก้ไขข้อบังคับและหนังสือบริคณห์สนธิ การลดทุนหรือเพิ่มทุน เป็นต้น
นอกเหนือจากสิทธิพื้นฐานต่างๆ ข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม ดังนี้
ก่อนการประชุม
หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีข้อมูลที่ถูกต้อง เพียงพอ และชัดเจน ดังนี้
การดําเนินการภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้น
คณะกรรมการบริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และโปร่งใส ทั้งรายงานข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทั่วไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนข้อมูลที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อกระบวนการตัดสินใจของผู้ลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ทั้งหมดได้รับทราบข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน โดยทำการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ ต่อผู้ถือหุ้นและสาธารณชนผ่านช่องทางและสื่อการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ และเว็บไซต์ของบริษัทฯ www.spvi.co.th
คณะกรรมการบริษัทฯ ตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อรายงานงบการเงินที่มีข้อมูลถูกต้อง ครบถ้วน เป็นจริง และสมเหตุสมผล งบการเงินของบริษัทฯ จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองทั่วไป โดยเลือกใช้นโยบายบัญชีที่เหมาะสมและถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ และใช้ดุลยพินิจอย่างระมัดระวัง โดยแสดงรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงินควบคู่กับรายงานของผู้สอบบัญชี ไว้ในแบบแสดงรายงานประจําปี (56-1) One Report และได้มีการเปิดเผยบทบาทและหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ และคณะกรรมการตรวจสอบ จํานวนครั้งของการประชุมและจํานวนครั้งที่กรรมการแต่ละท่านเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในปีที่ผ่านมา นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีการรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการ และผู้บริหารในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ทุกครั้ง โดยมีข้อมูลการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการ และผู้บริหารบริษัทฯ ในปี 2567 ดังนี้
รายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของคณะกรรมการและผู้บริหารในรอบปีที่ผ่านมา (ข้อมูล ณ 31 ธันวาคม 2567)
บริษัทฯ จัดให้มีหน่วยงานที่ให้ข้อมูลสารสนเทศและสื่อสารกับผู้ถือหุ้น นักลงทุนตลอดจนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งสามารถติดต่อขอข้อมูลบริษัทตามที่อยู่ด้านล่างนี้
ทางโทรศัพท์ : 0 2559 2901-9
ทางอีเมล์ : ir@spvi.co.th
นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถศึกษาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ www.spvi.co.th
ในปี 2567 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) รวม 4 ครั้ง ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ และการดำเนินงานของบริษัทฯ แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักลงทุน และสื่อมวลชน โดยเข้าร่วมกิจกรรม ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 16 พฤษภาคม 16 สิงหาคม และ 19 พฤศจิกายน 2567 ซึ่งบริษัทฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้ที่สนใจ
บริษัทฯ ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน เพื่อทําหน้าที่สรรหากรรมการของบริษัทฯ เพื่อสามารถให้ความมั่นใจได้ว่าคณะกรรมการที่ทําหน้าที่ ในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ ทักษะ และประสบการณ์เป็นที่ยอมรับ และมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเป็นอย่างดี
โครงสร้างกรรมการ
ปัจจุบันคณะกรรมการของบริษัทฯ มีจํานวน 8 คน ประกอบด้วย
(ก) กรรมการที่เป็นผู้บริหาร (Executive Director) 2 คน
(ข) กรรมการที่มิได้เป็นผู้บริหาร (Non-Executive Director) 6 คน (รวมประธานกรรมการบริษัท) ในจำนวนนี้มีกรรมการอิสระ 3 คน
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เพื่อช่วยในการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ดังนี้
2. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
บริษัทฯ กำหนดให้กรรมการบริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีสำหรับกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Code of Best Practices) ตามแนวทางของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการต้องเข้าใจและทราบถึงบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของตน และต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและคำนึงถึงประโยชน์ ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ เป็นผู้กำหนดนโยบาย เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ แผนธุรกิจ ตลอดจนงบประมาณของบริษัทฯ และกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน และงบประมาณที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม
3. การประชุมคณะกรรมการ
บริษัทฯ มีนโยบายให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ต้องประชุมอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง ซึ่งกำหนดวันประชุมไว้ล่วงหน้าตลอดทั้งปี และอาจมีการประชุมพิเศษเพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยการประชุมแต่ละครั้งได้มีการกำหนดวาระในการประชุมอย่างชัดเจน และมีการส่งหนังสือนัดประชุมพร้อมรายละเอียดล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม รวมทั้งได้มีการจดบันทึกรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษร และจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการบริษัทฯ พร้อมให้คณะกรรมการบริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้
โดยในปี 2567 มีการประชุมทั้งสิ้นจำนวน 5 ครั้ง โดยกำหนดการประชุมจะถูกพิจารณา กำหนดล่วงหน้าตลอดทั้งปี เพื่อให้มั่นใจว่ากรรมการทุกท่านจะสามารถจัดสรรเวลาเข้าร่วมประชุม ได้อย่างพร้อมเพรียงกัน และจำนวนกรรมการที่เข้าร่วมประชุม ปรากฎในหัวข้อ "โครงสร้างการกำกับดูแลกิจการ"
4. การประชุมของกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กําหนดให้กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารประชุมร่วมกันอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยไม่มีกรรมการที่เป็นผู้บริหารเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารได้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและพิจารณาประเด็นต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ และเรื่องที่อยู่ในความสนใจ โดยในปี 2567 บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมดังกล่าว เพื่อพิจารณาประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ การนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2560 (CG Code) ไปปรับใช้และเรื่องอื่นๆ
5. ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร
บริษัทฯ มีการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารในระดับที่เหมาะสมและเป็นอัตราที่เพียงพอสำหรับการรักษากรรมการและผู้บริหารที่มีคุณภาพไว้โดยไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนที่มากเกินควร และอยู่ในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ปัจจัยที่จะนำมาพิจารณา ประกอบด้วย ประสบการณ์ ภาระหน้าที่ ขอบเขตของบทบาทและความรับผิดชอบ ทั้งนี้ การจ่ายค่าตอบแทน ของกรรมการจะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในส่วนของค่าตอบแทน ของผู้บริหาร จะเป็นไปตามหลักการและนโยบายที่คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดไว้ ซึ่งจะพิจารณาจาก ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละท่าน ประกอบกับผลการดำเนินงาน ของบริษัทฯ
6. การปฐมนิเทศกรรมการใหม่
คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการปฐมนิเทศกรรมการใหม่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจ และการดำเนินการด้านต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการ ปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ
7. การพัฒนากรรมการและผู้บริหาร
คณะกรรมการบริษัทฯ มีนโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้มีการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง กรรมการ กรรมการตรวจสอบ ผู้บริหาร และเลขานุการบริษัทฯ เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติงานงานอย่างต่อเนื่อง
ในปี 2567 กรรมการ 8 ท่าน ได้เข้าอบรมหลักสูตรต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ได้แก่
- Broadening Board's Perspective on Risk and Compliance
- ESG: Understanding & Crisis Management
8. การประเมินตนเองของคณะกรรมการ
คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดให้มีการประเมินตนเองของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะ กรรมการแต่ละท่านและคณะกรรมการชุดย่อยแต่ละชุด เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงาน ทังยังเป็นการทบทวน ประมวลผลข้อคิดเห็น ในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทและการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ อันจะก่อให้เกิดการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ
ประธานกรรมการตรวจสอบ และ กรรมการตรวจสอบ มีวาระการดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่แต่งตั้งจนถึงเวลาสิ้นสุดวาระของการเป็นกรรมการบริษัท
ทั้งนี้ เมื่อครบวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจสอบที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งได้อีก
การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
รู้จักกับ SPVi
ธุรกิจของเรา
นักลงทุนสัมพันธ์