รายงานการกำกับดูแลกิจการ

การกำกับดูแลกิจการ

     คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ตระหนักถึงการดำเนินธุรกิจด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของการกำกับดูแลกิจการที่ดีด้วยความเชื่อมั่นว่าระบบและการกำกับดูแลกิจการที่ดี เป็นปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจ จึงได้กำหนดนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดีของบริษัทฯ โดยมีเนื้อหาครอบคลุมหลักการสำคัญในเรื่อง สิทธิของผู้ถือหุ้น การปฎิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน การคำนึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

     คณะกรรมการบริษัทฯ ได้ทบทวนและปรับปรุงนโยบายการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2562 เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ของบริษัทฯ
โดยอ้างอิงจาก หลักการกำกับดูแลกิจการที่ดีสำหรับบริษัทจดทะเบียนปี 2555 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสอดคล้องกับหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (CG Code) ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทฯ ได้เปิดเผยเนื้อหารายละเอียดไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.spvi.co.th/investor-relations/

     ในปี 2565 บริษัทฯ มีการปฎิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี สรุปได้ดังนี้

หมวดที่ 1 สิทธิของผู้ถือหุ้น

     บริษัทฯตระหนักและให้ความสำคัญในสิทธิพื้นฐานต่างๆ ของผู้ถือหุ้นได้แก่ สิทธิการซื้อขายหรือโอนหุ้น สิทธิในการที่จะได้รับส่วนแบ่งกำไรของกิจการ สิทธิในการได้รับข้อมูลข่าวสารของกิจการอย่างเพียงพอ สิทธิในการเข้าร่วมประชุมเพื่อใช้สิทธิออกเสียงในที่ประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อแต่งตั้งหรือถอดถอนกรรมการ แต่งตั้งผู้สอบบัญชี และเรื่องที่มีผลกระทบต่อบริษัทฯ เช่น การจัดสรรเงินปันผล การกำหนดหรือการแก้ไขข้อบังคับและหนังสือบริคณห์สนธิ การลดทุนหรือเพิ่มทุน เป็นต้น 

     นอกเหนือจากสิทธิพื้นฐานต่างๆ ข้างต้นแล้ว บริษัทฯ ยังได้ดำเนินการในเรื่องต่างๆ ที่เป็นการส่งเสริมและอำนวยความสะดวกในการใช้สิทธิของผู้ถือหุ้นเพิ่มเติม ดังนี้

ก่อนการประชุม
  1. เปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นส่วนน้อยสามารถเสนอวาระการประชุมและเสนอชื่อบุคคลเพื่อรับพิจารณาเลือกตั้งเป็นกรรมการได้ล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 1-31 ธันวาคม 2565 โดยได้ประกาศและเผยแพร่หลักเกณฑ์และวิธีการเสนอผ่านเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์และเว็บไซต์บริษัทฯ ทั้งนี้ เมื่อถึงกำหนดการปิดรับ ปรากฎว่าไม่มีผู้ถือหุ้นเสนอเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
  2. จัดทำหนังสือเชิญประชุม และเอกสารประกอบแก่ผู้ถือหุ้นล่วงหน้า รวมทั้งเปิดเผยในเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่ www.spvi.co.th/investor-relations/ ล่วงหน้า 30 วันก่อนวันประชุม นอกจากนี้ได้จัดส่งชุดเอกสารให้ผู้ถือหุ้นล่วงหน้า 21 วันก่อนวันประชุม เพื่อให้ผู้ถือหุ้นได้ศึกษาข้อมูลประกอบการประชุม

    หนังสือเชิญประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ มีข้อมูลที่ถูกต้อง เพียงพอ และชัดเจน ดังนี้
  • หนังสือเชิญประชุมแต่ละวาระระบุอย่างชัดเจนว่าเป็นเรื่องที่เสนอเพื่อทราบหรือเพื่อพิจารณา รวมทั้งข้อเท็จจริงและเหตุผล ความเห็นของคณะกรรมการ
  • แนบแบบฟอร์มลงทะเบียนที่มีหมายเลขบาร์โค้ดไปพร้อมกับหนังสือเชิญประชุม เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการลงทะเบียนให้กับ ผู้ถือหุ้น
  • แนบหนังสือมอบฉันทะทั้ง 3 แบบคือ แบบ ก. ข. และ ค. เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกใช้ตามแบบที่เหมาะสม
  • สําเนารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นครั้งก่อน
  • ข้อมูลของผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อเพื่อเลือกตั้งเป็นกรรมการบริษัท โดยระบุรายละเอียด ได้แก่ ชื่อ-นามสกุล อายุ ประวัติการศึกษา ประวัติการทํางาน ประวัติการอบรมจัดโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) ประเภทของกรรมการที่เสนอ วันเริ่มต้นดํารงตําแหน่งในบริษัทฯ
  • ข้อมูลของกรรมการผู้รับมอบฉันทะจากผู้ถือหุ้น ซึ่งมี 2 ท่านและทุกท่านเป็นกรรมการอิสระเพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถพิจารณามอบฉันทะให้เข้าประชุมและออกเสียงลงคะแนนแทน
  • ข้อบังคับของบริษัทฯ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประชุมผู้ถือหุ้น
  • แผนที่แสดงสถานที่สําหรับประชุมสําหรับการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลหรือรถประจําทาง

 

ในวันประชุมผู้ถือหุ้น
  1. บริษัทฯ จัดประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจําปีในวันที่ 4 เมษายน 2565 ณ ห้องประชุมเอสิค ชั้น 31 อาคารเอ็ม เอส สยามทาวเวอร์ ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี
    เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ซึ่งมีห้องประชุมที่มีขนาดเหมาะสม สามารถรองรับผู้เข้าร่วมประชุมได้อย่างเพียงพอ และเปิดรับลงทะเบียนก่อนเริ่มประชุมล่วงหน้าเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเพื่อให้เจ้าหน้าที่รับลงทะเบียนมีเวลาพอเพียงต่อการตรวจสอบเอกสารของผู้ถือหุ้นที่มาประชุมด้วยตนเองและผู้รับมอบฉันทะ เพื่อให้การลงทะเบียนเป็นไปอย่างถูกต้องและรวดเร็ว บริษัทฯ ได้จัดเจ้าหน้าที่และโต๊ะลงทะเบียนในจํานวนที่เหมาะสมและเมื่อลงทะเบียนเสร็จแล้วผู้ถือหุ้นจะได้รับบัตรลงคะแนนในแต่ละวาระเพื่อใช้ลงคะแนนในห้องประชุม
  2. ก่อนเริ่มการประชุม เลขานุการที่ประชุมชี้แจงวิธีการออกเสียงลงคะแนนตามข้อบังคับของบริษัทฯ โดยผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทฯ ได้รับสิทธิในการลงคะแนนหนึ่งหุ้น
    ต่อหนึ่งเสียง ซึ่งการลงคะแนนและนับคะแนนเป็นไปอย่างเปิดเผยโดยบริษัทฯ ได้นําระบบบาร์โค้ดมาใช้ในการนับคะแนนเสียง ซึ่งช่วยให้ขั้นตอนการประมวลผลคะแนนเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยํา และเมื่อทราบผลการลงคะแนนเสียงในแต่ละวาระ บริษัทฯ ได้แสดงผลดังกล่าวขึ้นหน้าจอภาพให้ผู้ถือหุ้นทราบโดยแบ่งเป็นคะแนนเสียงที่เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย และงดออกเสียง
  3. ประธานกรรมการตรวจสอบ กรรมการตรวจสอบ กรรมการอิสระ กรรมการ ประธานกรรมการบริหาร  และกรรมการผู้จัดการของบริษัทฯ ได้ให้ความสําคัญต่อการประชุมผู้ถือหุ้นเป็นอย่างมากโดยเข้าร่วมประชุม และบริษัทฯ ยังได้เชิญผู้สอบบัญชี และที่ปรึกษากฎหมายของบริษัทฯ เข้าร่วมประชุมด้วยเพื่อให้ข้อมูลหรือตอบ
    ข้อซักถามของผู้ถือหุ้นอย่างเต็มที่
  4. สําหรับผู้ถือหุ้นที่มาเข้าร่วมประชุมหลังจากที่บริษัทฯได้เริ่มดําเนินการประชุมไปแล้วนั้นยังสามารถเข้าร่วมประชุมและออกเสียงลงคะแนนได้ในระเบียบวาระที่อยู่ระหว่างการพิจารณาและยังไม่ได้ลงมติ
  5. การประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ดําเนินไปตามวาระที่กําหนดไว้ตามลําดับและไม่มีการพิจารณาวาระอื่นใดนอกเหนือจากที่ได้ กําหนดไว้ในหนังสือเชิญประชุม
  6. ประธานที่ประชุมมอบหมายให้เลขานุการบริษัทฯ แจ้งผลคะแนนแต่ละวาระและมติของที่ประชุมให้ผู้ถือหุ้นทราบภายในช่วงการจัดประชุมทันที โดยไม่มีผู้ถือหุ้นท่านใดยกมือคัดค้านหรือไม่เห็นด้วยกับมตินั้น
การดําเนินการภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้น
  1. บริษัทฯ ได้เปิดเผยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นพร้อมผลการลงคะแนนภายในวันเดียวกันผ่านระบบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  2. เลขานุการบริษัทฯ ได้จัดทํารายงานการประชุมผู้ถือหุ้นและจัดส่งรายงานการประชุมให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเผยแพร่รายงานการประชุมดังกล่าวไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ภายใน 14 วัน หลังจากวันประชุม

หมวดที่ 2 การปฏิบัติต่อผู้ถือหุ้นอย่างเท่าเทียมกัน

     บริษัทฯ ให้ความสําคัญและตระหนักในสิทธิของผู้ถือหุ้นทุกราย ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้นที่เป็นผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้นที่ไม่เป็นผู้บริหาร ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ หรือแม้แต่ผู้ถือหุ้นรายย่อย จึงไม่กระทําการใดๆ ที่ถือเป็นการเลือกปฏิบัติหรือก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมต่อผู้ถือหุ้นภายใต้ข้อกําหนดของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยในปี 2565 บริษัทฯ ได้ดําเนินการดังนี้

1. การประชุมผู้ถือหุ้น

  • บริษัทฯ ได้จัดส่งหนังสือมอบฉันทะทั้งสามแบบให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน เพื่อให้ผู้ถือหุ้นสามารถเลือกใช้ในแบบที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด 
  • ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นไม่สามารถเข้ามาเข้าร่วมการประชุมได้ บริษัทฯ ได้เสนอชื่อกรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ จํานวน 2 คน เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ถือหุ้นในการพิจารณามอบฉันทะให้กรรมการคนใดคนหนึ่งเข้าประชุม และออกเสียงลงคะแนนแทน

2. การดําเนินการเกี่ยวกับกรรมการและผู้บริหาร 
     บริษัทฯ กําหนดแนวทางในการป้องกันการใช้ข้อมูลภายในอย่างเคร่งครัดโดยกําหนดไว้เป็น ลายลักษณ์อักษร โดยดำเนินการดังนี้
  • แจ้งกฎเกณฑ์ และนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการใช้ข้อมูลภายในให้กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานได้รับทราบ เพื่อให้มั่นใจว่ากฎเกณฑ์และนโยบายดังกล่าวเป็นที่รับทราบและปฏิบัติตาม 
  • กรรมการ และผู้บริหาร งดทำการได้มาหรือจำหน่ายไป ซึ่งหลักทรัพย์ของบริษัทในช่วงก่อนเปิดเผยงบการเงินต่อสาธารณชน 30 วัน โดยเลขานุการบริษัทฯ จะแจ้งให้กรรมการ และผู้บริหารได้ทราบช่วงเวลาการห้ามซื้อขาย (Silent Period)
  • กำหนดบุคคลที่มีตำแหน่งหรือหน้าที่ซึ่งสามารถล่วงรู้ หรือครอบครองข้อมูลภายใน ได้มากกว่าพนักงานทั่วไปให้ถือว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่มีความสุ่มเสี่ยง จึงห้ามซื้อขาย โอน และรับโอน หลักทรัพย์ของบริษัทฯ ในช่วงเวลา 30 วันก่อนการเปิดเผยงบการเงินประจำไตรมาสและประจำปี (Black out Period) รวมทั้งให้มีการรายงานการถือครองและการเปลี่ยนแปลงหลักทรัพย์ของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุ นิติภาวะ ต่อเลขานุการบริษัทฯ ทุกครั้ง ภายใน 3 วันทำการ นับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
  • รายการระหว่างกันที่เกิดขึ้นในรอบปี 2565 เป็นรายการที่เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรม และเป็นไปตามธุรกิจปกติการค้า

หมวดที่ 3 การคํานึงถึงบทบาทของผู้มีส่วนได้เสีย

     บริษัทฯ ได้ให้ความสำคัญต่อสิทธิของผู้มีส่วนได้เสียและปฏิบัติอย่างเป็นธรรมต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย โดยมีรายละเอียดดังนี้

พนักงาน :บริษัทฯ ยึดถือแนวทางการปฏิบัติ ต่อพนักงานด้วยความเป็นธรรม ทั้งในด้านโอกาสผลตอบแทน การแต่งตั้ง โยกย้าย ตลอดจน การพัฒนาศักยภาพ ให้ความเคารพต่อความเป็นปัจเจกชนและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ ไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดูแลรักษาสภาพแวดล้อมในการทํางานให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและ ทรัพย์สินของพนักงาน
คู่ค้าและเจ้าหนี้ :บริษัทฯยึดถือแนวทางการปฏิบัติที่ดีตามเงื่อนไขทางการค้าและ/หรือข้อตกลงอย่างเป็นธรรมต่อคู่ค้าและ เจ้าหนี้ ไม่ว่าจะเป็นการชําระหนี้ตรงตามเวลา การดูแลคุณภาพหลักทรัพย์ค้ําประกันและเรื่องอื่นใดที่ได้ให้ ข้อตกลงไว้กับเจ้าหนี้ ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขได้บริษัทฯ จะรีบแจ้งให้เจ้าหนี้ทราบโดยเร็ว เพื่อร่วมกันพิจารณาหาแนวทางแก้ไข โดยใช้หลักความสมเหตุสมผล
ลูกค้า :บริษัทฯ มุ่งมั่นสร้างความพึงพอใจและความมั่นใจให้กับลูกค้าที่จะได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่ดี รวมทั้งรักษา สัมพันธภาพที่ดี มุ่งเน้นการทําการค้าด้วยความซื่อสัตย์และเป็นธรรม

     ในปี 2565 ร้าน iStudio และ iBeat ของบริษัทฯ ได้รับการสุ่มตรวจสอบจาก Mystery Shopper จากภายนอกอย่างสม่ำเสมอ และบริษัทฯ ยังได้รับการประเมินความพึงพอใจของลูกค้าศูนย์บริการ iCenter ซึ่งดำเนินการประเมินโดย Apple เป็นประจำทุกเดือน พบว่าความพึงพอใจโดยรวมแต่ละสาขาไม่น้อยกว่า ร้อยละ 89 ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับทราบข้อบกพร่อง แล้วนําไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อยกระดับคุณภาพบริการให้กับลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

คู่แข่ง :บริษัทฯ ปฏิบัติต่อคู่แข่งทางการค้าให้สอดคล้องกับหลักสากลภายใต้กรอบแห่งกฎหมายเกี่ยวกับหลักปฏิบัติการแข่งขันทางการค้าและยึดกติกาของการแข่งขันอย่างเสรีและเป็นธรรม และไม่มีนโยบายในการแข่งขันทางการค้าโดยใช้วิธีการใดๆ ให้ได้มาซึ่งข้อมูลคู่แข่งขันอย่างผิดกฎหมายและขัดต่อจริยธรรม
ชุมชนและสังคม :บริษัทฯ ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อชุมชนและสังคม ทั้งการจัดกิจกรรม และเข้ามีส่วนร่วม เพื่อสาธารณะประโยชน์และบริการสังคม เช่น กิจกรรมด้านการศึกษา เป็นต้น
ชุมชนและสังคม :บริษัทฯ ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่พึงมีต่อชุมชนและสังคม ทั้งการจัดกิจกรรม และเข้ามีส่วนร่วม เพื่อสาธารณะประโยชน์และบริการสังคม เช่น กิจกรรมด้านการศึกษา เป็นต้น


     นอกจากนี้บริษัทฯยังจัดให้มีนโยบายเกี่ยวกับการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่นและห้ามจ่ายสินบน เพื่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงการประเมิน ความเสี่ยง กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการกำกับดูแลและควบคุมดูแลเพื่อป้องกันและติดตามประเมินผลความเสี่ยงจากการทุจริตคอร์รัปชั่น และยังเน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อช่วยกันตรวจสอบความโปร่งใส ในการดำเนินธุรกิจ การประพฤติ ตามนโยบายการกำกับดูแลกิจการที่ดี ตลอดจนแนวปฏิบัติเรื่องการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น โดยผู้ที่พบเห็นการละเมิดสามารถแจ้งการพบเห็นดังกล่าวต่อคณะกรรมการบริษัท ผ่านเลขานุการบริษัท หรือแผนกตรวจสอบภายใน ทั้งนี้เรื่องที่ถูกแจ้งเข้ามาจะถูกนำเข้าสู่กระบวนการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไปและผู้รายงานจะได้รับการคุ้มครองจากบริษัทฯ อย่างดีที่สุด

มาตรการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแส หรือผู้ร้องเรียน

  1. บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลและตัวตนของผู้แจ้งเบาะแส หรือผู้ร้องเรียนและผู้ถูกร้องเรียน เป็นความลับ
  2. บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลเท่าที่จําเป็น โดยคํานึงถึงความปลอดภัยและความเสียหายของผู้รายงานแหล่งที่มาของข้อมูล หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง
  3. ผู้ที่ได้รับความเสียหายจะได้รับการบรรเทาความเสียหายด้วยกระบวนการที่เหมาะสมและเป็นธรรม
  4. บริษัทฯ จะไม่กระทําการใดอันไม่เป็นธรรมต่อผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้ร้องเรียน ไม่ว่าจะโดยการปลี่ยนแปลงตําแหน่งงาน ลักษณะงาน สถานที่ทํางาน สั่งพักงาน เลิกจ้าง หรือกระทําการอื่นใดที่มีลักษณะเป็นการปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมต่อผู้แจ้ง เบาะแสหรือผู้ร้องเรียนหรือผู้ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อเท็จจริง 

ช่องทางในการแจ้งเบาะแสหรือร้องเรียนการแจ้งเบาะแสการกระทําผิดหรือข้อร้องเรียน

  1. ส่งโดยตรงที่เลขานุการบริษัท
    บริษัท เอส พี วี ไอ จํากัด (มหาชน)
    1213/58-59 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 
    หรือทางอีเมล์ : companysecretary@spvi.co.th
  2. ส่งโดยตรงที่แผนกตรวจสอบภายใน
    นางสาวยุพา เบญจวิกรัย
    บริษัท เอส พี วี ไอ จํากัด (มหาชน)
    1213/58-59 ซอยลาดพร้าว 94 ถนนศรีวรา แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพมหานคร 10310 
    หรือทางอีเมล์ : yupa@spvi.co.th
การดำเนินการเมื่อได้รับข้อร้องเรียน
      เมื่อได้รับเรื่องร้องเรียนหรือเบาะแสการกระทําผิดที่ส่งเข้ามาตามช่องทางการร้องเรียนของบริษัทฯ เลขานุการบริษัท หรือแผนกตรวจสอบภายใน ดำเนินการรวบรวมข้อเท็จจริงและแผนกตรวจสอบภายในทำการตรวจสอบ ก่อนนำส่งเรื่องร้องเรียนให้หัวหน้าสายงานที่เกี่ยวข้องทราบ พร้อมนำเสนอมาตรการแก้ไขปัญหาต่างๆ โดยยึดหลักความโปร่งใสและเป็นธรรมแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย 

การตรวจสอบข้อเท็จจริง 
     แผนกตรวจสอบภายใน พิจารณาจัดทำรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมความเห็นและข้อเสนอแนะ เสนอกรรมการผู้จัดการพิจารณาสั่งการตามความเหมาะสม รวมทั้ง รายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบรับทราบ

     โดยในปี 2565 ที่ผ่านมาไม่มีการร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตและคอร์รัปชัน สำหรับการร้องเรียนด้านอื่น ได้แก้ไขแล้ว ซึ่งได้ส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบ 

การอบรมและสื่อสาร
     บริษัทฯ ส่งเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้พนักงานตระหนักถึงความสำคัญของการต่อต้านทุจริต คอร์รัปชั่น โดยแผนกทรัพยากรบุคคลจะสื่อสารและฝึกอบรมพนักงาน เกี่ยวกับนโยบายและแนวปฏิบัติในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น เพื่อให้ความรู้และปลูกฝังให้พนักงานทุกระดับมีจิตสำนึกในการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชั่น

 
 

หมวดที่ 4 การเปิดเผยข้อมูลและความโปร่งใส
 
     คณะกรรมการบริษัทฯ ให้ความสำคัญต่อการเปิดเผยข้อมูลอย่างถูกต้อง ครบถ้วน และโปร่งใส ทั้งรายงานข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทั่วไปตามหลักเกณฑ์ของ ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ตลอดจนข้อมูลที่สำคัญที่มีผลกระทบต่อราคาหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อกระบวนการ ตัดสินใจของผู้ลงทุนและผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ทั้งหมดได้รับทราบข้อมูลอย่างเท่าเทียมกัน  โดยทำการเผยแพร่ข้อมูลสารสนเทศของบริษัทฯ ต่อผู้ถือหุ้นและสาธารณชนผ่านช่องทางและสื่อการเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ และเว็บไซต์ของบริษัทฯ www.spvi.co.th

     คณะกรรมการบริษัทฯตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อรายงานงบการเงินที่มีข้อมูลถูกต้องครบถ้วนเป็นจริงและสมเหตุสมผลงบการเงินของบริษัทฯจัดทำขึนตามมาตรฐานการบัญชีทีรับรองทั่วไปโดยเลือกใช้นโยบายบัญชีทีเหมาะสมและถือปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและใช้ดุลยพินิจอย่างระมัดระวังโดยแสดงรายงานความรับผิดชอบของคณะกรรมการต่อรายงานทางการเงินควบคู่กับรายงานของผู้สอบบัญชีไว้ในแบบแสดงรายงานประจําปี One Report และได้มีการ เปิดเผยบทบาทและหน้าที่ของคณะ กรรมการบริษัทฯ และคณะกรรมการตรวจสอบ จํานวนครั้งของการประชุม และจํานวนครั้งที่กรรมการแต่ละท่านเข้าร่วมประชุม คณะกรรมการบริษัทฯ ในปีทีผ่านมา นอกจากนั้นยังกำหนดให้มีการรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการ และผู้บริหารในการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ทุกครั้งโดยมีข้อมูลการถือครองหลักทรัพย์ของกรรมการ และผู้บริหารบริษัทฯ ในปี 2565 ดังนี้
 
     บริษัทฯ จัดให้มีหน่วยงานที่ให้ข้อมูลสารสนเทศและสื่อสารกับผู้ถือหุ้น นักลงทุนตลอดจนนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ซึ่งสามารถติดต่อขอข้อมูลบริษัทตามที่อยู่ด้านล่างนี้

     ทางโทรศัพท์ : 0 2559 2901-9

     ทางอีเมล์    : ir@spvi.co.th

     นอกจากนี้นักลงทุนยังสามารถศึกษาข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์ www.spvi.co.th
 
     ในปี 2565 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบนักลงทุน (Opportunity Day) รวม 4 ครั้ง ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย  เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ และการดำเนินงานของบริษัทฯ แก่นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ นักลงทุนและสื่อมวลชน โดยเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่ 2 มีนาคม 20 พฤษภาคม 22 สิงหาคม และ 15 พฤศจิกายน 2565 ซึ่งบริษัทฯ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ผู้ถือหุ้น และผู้ที่สนใจ

หมวดที่ 5 ความรับผิดชอบของคณะกรรมการ

     บริษัทฯได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนเพื่อทําหน้าที่สรรหากรรมการของบริษัทฯเพื่อสามารถให้ความมั่นใจได้ว่าคณะกรรมการที่ทําหน้าที่ในปัจจุบันนั้นประกอบไปด้วยบุคคลที่มีความรู้ความสามารถทักษะและประสบการณ์เป็นที่ยอมรับและมีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเป็นอย่างดี  

  • โครงสร้างกรรมการ
  • ปัจจุบันคณะกรรมการของบริษัทฯ มีจํานวน 8 คน ประกอบด้วย 
    • กรรมการที่เป็นผู้บริหาร (Executive Director) 2 คน
    • กรรมการที่มิได้เป็นผู้บริหาร (Non-Executive Director) 6 คน (รวมประธานกรรมการบริษัทฯ) 
      ในจำนวนนี้มีกรรมการอิสระ 3 คน 


     นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ ยังได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดต่างๆ เพื่อช่วยในการกำกับดูแลกิจการของ บริษัทฯ ดังนี้

คณะกรรมการบริหาร : เป็นผู้กำหนดแนวทางและกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดโดยคณะกรรมการบริษัทฯ และเพื่อให้การบริหารงานเป็นไปอย่างคล่องตัว 

คณะกรรมการตรวจสอบ : ปฏิบัติหน้าที่เฉพาะเรื่องและเสนอเรื่องให้คณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาและรับทราบ ซึ่งคณะกรรมการตรวจสอบมีสิทธิหน้าที่ตามที่ได้กำหนดไว้ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจสอบ ทั้งนี้ กรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 1 ท่าน จะต้องมีความรู้และประสบการณ์ด้านบัญชีเพียงพอที่จะสามารถทำหน้าที่ในการสอบทานความน่าเชื่อถือของงบการเงินของบริษัทฯ ได้

คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง : ปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยคณะกรรมการบริษัทฯ พิจารณาความเสี่ยงในเรื่องต่างๆ อาทิเช่น ความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ ความเสี่ยงด้านการเงิน ความเสี่ยงด้านการตลาด เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถบริหารจัดการให้ระดับความเสี่ยงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ รวมถึงเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป 

คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน : ปฏิบัติหน้าที่ในการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนให้แก่กรรมการบริษัทฯ และผู้บริหารระดับสูงสุด เพื่อช่วย
คณะกรรมการบริษัทฯ ในการทําให้มั่นใจว่าบริษัทฯ มีการดําเนินการเรื่องกระบวนการสรรหาและการพิจารณาค่าตอบแทนอย่างเหมาะสม

     คณะกรรมการบริษัทฯ มีนโยบายให้ประธานกรรมการและกรรมการผู้จัดการต้องไม่เป็นบุคคลเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในด้านความรับผิดชอบระหว่างการกำหนดนโยบายการกำกับดูแลและการบริหารงานประจำ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้แบ่งแยกบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบระหว่างคณะกรรมการบริษัทฯ กับผู้บริหารอย่างชัดเจน โดยคณะกรรมการบริษัทฯ ทำหน้าที่ในการกำหนดนโยบายและกำกับดูแลการดำเนินงานของผู้บริหาร ขณะที่ผู้บริหารทำหน้าที่บริหารงานของบริษัทฯ ในด้านต่างๆ ให้เป็นไปตามนโยบายที่กำหนด

  • บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
         บริษัทฯ กำหนดให้กรรมการบริษัทฯ ปฏิบัติตามข้อพึงปฏิบัติที่ดีสำหรับกรรมการบริษัทจดทะเบียน (Code of Best Practices) ตามแนวทางของ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยคณะกรรมการต้องเข้าใจและทราบถึงบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบของตน และต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย วัตถุประสงค์ และข้อบังคับของบริษัทฯ ตลอดจนมติที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นเป็นสำคัญ ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทฯ เป็นผู้กำหนดนโยบาย เป้าหมายการดำเนินธุรกิจ แผนธุรกิจ ตลอดจนงบประมาณของบริษัทฯ และกำกับดูแลให้ฝ่ายจัดการดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย แผนงาน และงบประมาณที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นโดยรวม
  • การประชุมคณะกรรมการ
         บริษัทฯ มีนโยบายให้คณะกรรมการของบริษัทฯ ต้องประชุมอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้ง ซึ่งกำหนดวันประชุมไว้ล่วงหน้าตลอดทั้งปี และอาจมีการประชุมพิเศษเพิ่มเติมตามความจำเป็น โดยการประชุมแต่ละครั้งได้มีการกำหนดวาระในการประชุมอย่างชัดเจน และมีการส่งหนังสือนัดประชุมพร้อมรายละเอียดล่วงหน้า 7 วัน เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีเวลาศึกษาข้อมูลอย่างเพียงพอก่อนเข้าร่วมประชุม รวมทั้งได้มีการจดบันทึกรายงานการประชุมเป็นลายลักษณ์อักษรและจัดเก็บรายงานการประชุมที่ผ่านการรับรองจากคณะกรรมการบริษัทฯ พร้อมให้คณะกรรมการบริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบได้ 
         โดยในปี 2564 มีการประชุมทั้งสิ้นจำนวน 5 ครั้ง โดยกำหนดการประชุมจะถูกพิจารณา กำหนดล่วงหน้าตลอดทั้งปี เพื่อให้มั่นใจว่ากรรมการทุกท่านจะสามารถจัดสรรเวลาเข้าร่วมประชุมได้อย่างพร้อมเพรียงกัน และจำนวนกรรมการที่เข้าร่วมประชุมปรากฎในหัวข้อ " โครสร้างการกำกับดูแลกิจการ "
  • การประชุมของกรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหาร
         คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กําหนดให้กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารประชุมร่วมกันอย่างน้อย 1 ครั้ง โดยไม่มีกรรมการที่เป็นผู้บริหารเข้าร่วมการประชุม เพื่อให้กรรมการที่ไม่เป็นผู้บริหารได้แลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและพิจารณาประเด็นต่างๆ ทั้งที่เกี่ยวกับธุรกิจของบริษัทฯ และเรื่องที่อยู่ในความสนใจ โดยในปี 2564 บริษัทฯ ได้จัดให้มีการประชุมดังกล่าว เพื่อพิจารณาประเมินการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ การนำหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี สำหรับบริษัทจดทะเบียน ปี 2560 (CG Code) ไปปรับใช้และเรื่องอื่นๆ 
  • ค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหาร
         บริษัทฯ มีการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการและผู้บริหารในระดับที่เหมาะสมและเป็นอัตรา ที่เพียงพอสำหรับการรักษากรรมการและผู้บริหารที่มีคุณภาพไว้โดยไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนที่มากเกินควร และอยู่ในระดับที่สามารถเทียบเคียงได้กับบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน ปัจจัยที่จะนำมาพิจารณา ประกอบด้วย ประสบการณ์ ภาระหน้าที่ ขอบเขตของบทบาทและความรับผิดชอบ ทั้งนี้ การจ่ายค่าตอบแทน ของกรรมการจะต้องผ่านการพิจารณาอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในส่วนของค่าตอบแทน ของผู้บริหาร จะเป็นไปตามหลักการและนโยบายที่คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดไว้ ซึ่งจะพิจารณาจาก ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบ ผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารแต่ละท่าน ประกอบกับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ
  • การปฐมนิเทศกรรมการใหม่
         คณะกรรมการบริษัทฯ ได้กำหนดให้มีการปฐมนิเทศกรรมการใหม่ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในธุรกิจและการดำเนินการด้านต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการ
  • การพัฒนากรรมการและผู้บริหาร
         
    คณะกรรมการบริษัทฯ มีนโยบายส่งเสริมและอำนวยความสะดวกให้มีการฝึกอบรมและให้ความรู้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ซึ่งรวมถึง กรรมการ กรรมการตรวจสอบ ผู้บริหาร และเลขานุการบริษัทฯ เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติงานงานอย่างต่อเนื่อง
  • การประเมินตนเองของคณะกรรมการ
         คณะกรรมการบริษัทฯ กำหนดให้มีการประเมินตนเองของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะ กรรมการแต่ละท่านและคณะกรรมการชุดย่อยแต่ละชุด เพื่อประเมินผลการปฏิบัติงาน ทั้งยังเป็นการทบทวน ประมวลผลข้อคิดเห็นในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของบริษัทฯ และการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทฯ อันจะก่อให้เกิดการการพัฒนาการกำกับดูแลกิจการ
    • การประเมินตนเองของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะ
           คณะกรรมการบริษัทฯ ได้จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะประจำปี 2564 ซึ่งแบบประเมินครอบคลุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้
        1. โครงสร้างของคณะกรรมการ
        2. การกำหนดกลยุทธิ์และทิศทางบริษัทฯ
        3. ความรับผิดชอบหน้าที่ของคณะกรรมการ
        4. การกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ
        5. ความสัมพันธ์ระหว่างคณะกรรมการและฝ่ายจัดการ
           โดยผลการประเมินการปฎิบัติงานของคณะกรรมการบริษัทฯ ทั้งคณะ ในรอบปี 2564 ที่ผ่านมาในภาพรวม 5 หัวข้อ อยู่ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 99.46
    • การประเมินตนเองของกรรมการรายบุคคล
           
      คณะกรรมการบริษัทฯ ได้จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการแต่ละท่าน ประจำปี 2565 ซึ่งแบบประเมินครอบคลุมในเรื่องต่าง ดังนี้
       
      1. โครงสร้างและคุณสมบัติของคณะกรรมการ

        2. การประชุมของคณะกรรมการ
        3. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
           โดยผลการประเมินการปฎิบัติงานของกรรมการแต่ละท่าน ในรอบปี 2565 ที่ผ่านมา ในภาพรวม 3 หัวข้อ อยู่ในระดับดีเยี่ยม คิดเป็นร้อยละ 99.43
    • การประเมินตนเองของคณะกรรมการชุดย่อย
           
      คณะกรรมการบริษัทฯ ได้จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการชุดย่อยแต่ละชุด ประจำปี 2565 ซึ่งแบบประเมินคลอบคลุมในเรื่องต่าง ดังนี้

        1. โครงสร้างและคุณสมบัติของคณะกรรมการ
        2. การประชุมของคณะกรรมการ
        3. บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบของคณะกรรมการ
           โดยผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการชุดย่อย ปี 2565 ทุกชุดอยู่ในระดับดีเยี่ยม สามารถสรุปได้ดังนี้


    • ขั้นตอนในการประเมิน
         
       เลขานุการบริษัทฯ จะจัดส่งแบบประเมินให้กรรมการทุกท่านประเมินตนเองในทุกสิ้นปี จากนั้นจะนำรวบรวมและรายงานสรุปผลต่อที่ประชุมคณะกรรมการ
      บริษัทฯ เพื่อรับทราบรวมทั้งหารือถึงแนวทางในการพัฒนาต่อไป 
    • การประเมินผลงานประจําปีของกรรมการผู้จัดการ
           
      คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน ได้จัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงานของกรรมการผู้จัดการ เพื่อนําไปใช้ในการพิจารณาค่าตอบแทน
      โดยใช้แบบประเมินที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทฯ โดยประเมินครอบคลุมในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 
        1. ความเป็นผู้นํา
        2. การกําหนดและปฏิบัติตามแผนกลยุทธ์
        3. การวางแผนและผลปฏิบัติทางการเงิน
        4. ความสัมพันธ์กับคณะกรรมการ
        5. การบริหารงานและความสัมพันธ์กับบุคลากร
        6. การสืบทอดตําแหน่ง
        7. ความรู้ด้านผลิตภัณฑ์และบริการ
           ผลการประเมินกรรมการผู้จัดการในรอบปี 2565 ที่ผ่านมาในภาพรวม 7 หัวข้อ อยู่ในระดับดี คิดเป็น ร้อยละ 100

การสรรหากรรมการ
     คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทนจะทําหน้าที่รับผิดชอบในการพิจารณาทบทวนทักษะและคุณลักษณะของกรรมการที่ต้องการเป็นประจําทุกปี เพื่อให้คณะกรรมการบริษัทฯ มีองค์ประกอบที่เหมาะสมกับทิศทางในการดําเนินธุรกิจและกลยุทธ์ในปัจจุบันและอนาคตของบริษัทฯ โดยขั้นตอนการคัดเลือกกรรมการของบริษัทฯ มีดังนี้

  • การคัดเลือกและแต่งตั้งกรรมการใหม่
    • คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน จะจัดทําเป็นตาราง Board Skill Matrix เพื่อพิจารณาว่าคณะกรรมการบริษัทฯ ยังขาดความเชี่ยวชาญในเรื่องใด นอกจากนั้น ยังพิจารณาถึงความหลากหลายในด้าน ทักษะ ประสบการณ ความรู้ ความเป็นอิสระ อายุ และเพศ
    • คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน พิจารณาสรรหาบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติตรงเกณฑ์ที่สุดจากแหล่งต่างๆ ดังนี้
      • กรรมการของบริษัทฯ เป็นผู้แนะนํา
      • ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้นและมีสิทธิออกเสียงรวมกันได้ไม่น้อยกว่าร้อยละ 1 ของจํานวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของบริษัทฯ
      • บริษัทที่ปรึกษาภายนอก
      • ฐานข้อมูลกรรมการของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย 
    • คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน จะประเมินคุณสมบัติเบื้องต้นของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อและคัดเลือกให้เหลือไว้ จํานวนหนึ่ง หลังจากนั้นจะสัมภาษณ์บุคคลดังกล่าว
    • คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน จะส่งรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมที่สุดให้คณะกรรมการบริษัทฯ เสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น อนุมัติแต่งตั้ง หรือให้คณะกรรมการบริษัทฯ แต่งตั้งในกรณีที่ตําแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากออกตามวาระ
  • การแต่งตั้งกรรมการกลับเข้าดํารงตําแหน่ง 
         ในการพิจารณากรรมการเดิมที่มีอยู่กลับเข้าดำรงตำแหน่ง คณะกรรมการสรรหาและพิจารณาค่าตอบแทน จะพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น ผลการปฏิบัติงาน จำนวนครั้งการเข้าร่วมประชุม และการมีส่วนร่วมในการประชุม รวมทั้งการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ของคณะกรรมการบริษัทฯ


องค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทฯ
     
องค์ประกอบและการสรรหา แต่งตั้ง ถอดถอน หรือพ้นจากตำแหน่งกรรมการของบริษัทฯ นั้น ได้กำหนดไว้ในข้อบังคับของบริษัทฯ ซึ่งสามารถสรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

  1. คณะกรรมการบริษัทฯ ประกอบด้วย กรรมการจำนวนไม่น้อยกว่า 5 คน และกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการทั้งหมดต้องมีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร และต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด
  2. ให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเลือกตั้งกรรมการ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการดังต่อไปนี้
    • ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งมีคะแนนเสียงเท่ากับจำนวนหุ้นที่ตนถือ
    • ผู้ถือหุ้นแต่ละคนจะใช้คะแนนเสียงที่มีอยู่เลือกตั้งบุคคลคนเดียวหรือหลายคนเป็นกรรมการก็ได้ ในกรณีที่เลือกตั้งบุคคลหลายคนเป็นกรรมการจะแบ่งคะแนนเสียงให้แก่ผู้ใดมากน้อยเพียงใดไม่ได้
    • บุคคลที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดตามลำดับลงมาเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้งเป็นกรรมการเท่าจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งในครั้งนั้น ในกรณีที่บุคคลซึ่งได้รับการเลือกตั้ง ในลำดับถัดลงมามีคะแนนเสียงเท่ากันเกินจำนวนกรรมการที่จะพึงมีหรือจะพึงเลือกตั้งในครั้งนั้น ให้ผู้เป็นประธานเป็นผู้ออกเสียงชี้ขาด
  3. ในการประชุมผู้ถือหุ้นสามัญประจำปีทุกครั้งให้กรรมการออกจากตำแหน่งจำนวนหนึ่งในสาม ของจำนวนกรรมการในขณะนั้น ถ้าจำนวนกรรมการจะแบ่งออกให้ตรงเป็นสามส่วนไม่ได้ ก็ให้ออกโดยจำนวนใกล้ที่สุดกับส่วนหนึ่งในสามกรรมการที่จะต้องออกจากตำแหน่งในปีแรกและปีที่สองภายหลังจดทะเบียนบริษัทนั้นให้จับสลากกัน ส่วนปีหลังๆ ต่อไปให้กรรมการคนที่อยู่ในตำแหน่งนานที่สุดนั้น เป็นผู้ออกจากตำแหน่ง กรรมการที่จะออกตามวาระอาจถูกเลือกเข้ามารับตำแหน่งใหม่ก็ได้
  4. กรรมการคนใดจะลาออกจากตำแหน่งให้ยื่นใบลาออกต่อบริษัทฯ การลาออกมีผลนับตั้งแต่วันที่ใบลาออกไปถึงบริษัทฯ
  5. ในกรณีที่ตำแหน่งกรรมการว่างลงเพราะเหตุอื่นนอกจากถึงคราวออกตามวาระ คณะกรรมการ อาจเลือกบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติ และไม่มีลักษณะต้องห้ามตามกฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจำกัด และ/หรือกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เข้าเป็นกรรมการแทนในการประชุมคราวถัดไป เว้นแต่วาระของกรรมการจะเหลือน้อยกว่า 2 เดือน บุคคลซึ่งเข้าเป็นกรรมการแทนดังกล่าว จะอยู่ในตำแหน่งกรรมการได้เพียงแค่วาระที่ยังเหลืออยู่ของกรรมการที่ตนแทน มติของคณะกรรมการต้องประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนกรรมการที่ยังเหลืออยู่
  6. ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอาจลงมติให้กรรมการคนใดออกจากตำแหน่งก่อนถึงคราวออกตามวาระได้ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสามในสี่ของจำนวนผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง และมีหุ้นนับรวมกันได้ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนหุ้นที่ถือโดย ผู้ถือหุ้นที่มาประชุมและมีสิทธิออกเสียง
องค์ประกอบและการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ
     คณะกรรมการบริษัทฯ จะเป็นผู้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งประกอบด้วยกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ท่าน โดยแต่งตั้งจากกรรมการอิสระของบริษัทฯ ที่มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ รวมถึงประกาศข้อบังคับ และ/หรือระเบียบของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกำหนด นอกจากนี้ กรรมการอิสระที่ดำรงตำแหน่งกรรมการตรวจสอบต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมดังนี้ 
  • ไม่เป็นกรรมการที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการให้ตัดสินใจในการดำเนินกิจการของบริษัทฯ บริษัทใหญ่ บริษัทย่อย บริษัทร่วม บริษัทย่อยลำดับเดียวกัน หรือนิติบุคคลที่อาจมีความขัดแย้ง 
  • ไม่เป็นกรรมการของบริษัทใหญ่ บริษัทย่อย หรือบริษัทย่อยลำดับเดียวกันเฉพาะที่เป็นบริษัทจดทะเบียน
  • มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะสามารถทำหน้าที่ในฐานะกรรมการตรวจสอบ ทั้งนี้ ต้องมีกรรมการตรวจสอบอย่างน้อยหนึ่งคนที่มีความรู้และประสบการณ์เพียงพอที่จะสามารถทำหน้าที่ในการสอบทานความน่าเชื่อถือของงบการเงินได้ ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจสอบมีวาระการดำรงตำแหน่งนับตั้งแต่แต่งตั้งจนถึงเวลาสิ้นสุดวาระของการเป็นกรรมการบริษัทฯ ทั้งนี้ เมื่อครบวาระการดำรงตำแหน่งดังกล่าว ประธานกรรมการตรวจสอบและกรรมการตรวจสอบที่พ้นจากตำแหน่งตามวาระอาจได้รับการแต่งตั้งให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งได้อีก


การดูแลเรื่องการใช้ข้อมูลภายใน
     ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทฯ นำความลับ และ/หรือข้อมูลภายในของบริษัทฯ ไปเปิดเผยหรือแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองหรือเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่นใดไม่ว่าโดยทางตรง หรือทางอ้อม และไม่ว่าจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม
     ห้ามมิให้กรรมการ ผู้บริหาร  พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทฯ รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว ใช้ข้อมูลภายในของบริษัทฯ ที่มีหรือ
อาจมี
ผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงราคาของหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ซึ่งยังมิได้เปิดเผยต่อสาธารณชน เพื่อทำการซื้อ ขาย เสนอซื้อ เสนอขาย หรือชักชวนให้บุคคลอื่นซื้อขาย เสนอซื้อหรือเสนอขายหลักทรัพย์ของบริษัทฯ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ก่อนที่ข้อมูลนั้นจะได้มีการเปิดเผยต่อสาธารณชน ไม่ว่าการกระทำดังกล่าวจะกระทำเพื่อประโยชน์ต่อตนเองหรือผู้อื่น หรือเพื่อให้ผู้อื่นกระทำดังกล่าวโดยตนได้รับประโยชน์ตอบแทน ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกลงโทษตามมาตรการทางวินัยของบริษัทฯ
     บริษัทฯ ได้ดำเนินการแจ้งให้ผู้บริหารเข้าใจและรับทราบภาระหน้าที่ในการรายงานการถือครองหลักทรัพย์ในบริษัทฯ ของตนเอง คู่สมรส และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ตลอดจนการรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือครอง หลักทรัพย์ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ตามมาตรา 59 และบทกำหนดโทษตาม
พระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535

     บริษัทฯ ได้กำหนดมิให้กรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทฯ รวมถึงคู่สมรสและบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะของบุคคลดังกล่าว ซื้อขายหลักทรัพย์ของ
บริษัทฯ ในช่วงระยะเวลา 1 เดือน ก่อนการเปิดเผยงบการเงินให้แก่สาธารณชนทราบ 

     ทั้งนี้บริษัทฯได้แจ้งให้กรรมการผู้บริหารพนักงานและลูกจ้างของบริษัทฯทราบเกี่ยวกับข้อกำหนดข้างต้น

การแต่งตั้งและพิจารณาค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี
     คณะกรรมการตรวจสอบพิจารณาคุณสมบัติและการปฏิบัติงานของผู้สอบบัญชีและเสนอต่อคณะกรรมการในการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีของบริษัทฯในแต่ละปีรวมถึงค่าตอบแทนของผู้สอบบัญชีเพื่อเสนอขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น
     ในรอบปี 2565 ค่าตอบแทนผู้สอบบัญชี ประกอบด้วย

  1. ค่าตอบแทนจากการสอบบัญชี (Audit Fee) ในปี 2565 บริษัทฯ ได้จ่ายค่าตอบแทนการสอบบัญชี (Audit Fee) ให้แก่บริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด เป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท
  2. ค่าบริการอื่น (Non-audit Service) ในปี 2565 บริษัทฯ ชำระค่าบริการอื่น ในการสังเกตการณ์ ทำลายสินค้ากับบริษัท สำนักงาน อีวาย จำกัด เป็นจำนวนเงิน 25,000

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้